SabyEnglish

ฝึกภาษาอังกฤษ สนทนาภาษาอังกฤษ (English Conversation) และ โครงสร้างและการใช้ Tenses ต่างๆ

Friday, July 31, 2015

4 วิธีฝึกภาษาอังกฤษง่ายๆ จากที่บ้าน

วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการฝึกภาษาอังกฤษ จากที่บ้านได้ง่ายๆ 4 วิธี ที่ได้ทั้งการพูดการฟัง รวมถึงการอ่าน ในการเรียนภาษานั้น สิ่งที่เราควรจะเริ่มเรียนอันดับแรกคือการฟังครับ เหมือนตอนเราเกิด ก่อนจะเริ่มพูดภาษาไทย เราเริ่มที่การฟังก่อน แต่ในประเทศเรานั้นการเรียนภาษาอังกฤษกลับเริ่มที่การเขียน หรือถึงแกรมม่าต่างๆครับ

มาดู 4 วิธีกันเลย

1.) ดูหนังภาษาอังกฤษ หรือซีรี่ภาษาอังกฤษ เรื่องที่คุณชอบ แน่นอนว่าต้องฟังเป็นภาษาอังกฤษนะครับ แนะนำให้ดูเรื่องละ 2 รอบครับ รอบแรกให้ดูเป็น Sound Track และเปิดซับภาษาอังกฤษ จากนั้นดูรอบสอง เป็น ซับภาษาไทยครับ เวลาดูก็ให้เราพยายามพูดตามไปด้วยครับ หลังจากทำไปบ่อยๆ ประโยคพูดมันจะติดปากเรามาเองเลย และเป็นการฝึกการฟังที่ดีมากๆ

2.) ฟังเพลงภาษาอังกฤษ ครับ ฟังเพลงที่เราชอบได้เลย แต่ไม่ใช่ฟังอย่างเดียว เราต้องแปลความหมายในเพลงด้วย เดี๋ยวนี้มีหลายเว็บไซต์ครับที่แปลเนื้อเพลงภาษาอักกฤษเป็นภาษาไทยให้ เราก็ฟัง พยายามร้องเนื้อเพลงตาม เป็นการฝึกฟังและพูดที่ดีมากเลยครับ รวมถึงสามารถฝึกได้สบายๆด้วยการฟังเพลง

3.) ดูการ์ตูนเด็ก ถ้าหนังเป็นคำศัพท์ที่ยากเกิน ผมแนะนำการ์ตูนเด็กครับ เปิดซับภาษาอังกฤษ พยายามฟัง พยายามแปลครับ แน่นอนว่าคำศัพท์ไม่ยากเลยในการ์ตูนสำหรับเด็ก

ผมแนะนำเรื่องนี้ครับ Peppa Pig สามารถดูได้ที่ Youtube เลยครับ เรื่องนี้จะไม่เด็กเกินไปครับ ดูสนุกๆ

4.) หาเพื่อนต่างชาติคุยครับ ซึ่งจะทำให้เราได้ฝึกในทุกๆวัน ถ้าใครต้องการจะหาเพื่อนคุย ก็สามารถหาได้ที่เว็ปไซต์ http://www.englishbaby.com/ ครับ จะมีชาวต่างชาติประเทศต่างๆมากมาย ที่ต้องการจะฝึกภาษาอังกฤษครับ หรือบางคนก็ต้องการหาเพื่อนต่างชาติ โพสต์รูปโพสต์ประวัติย่อๆไว้ให้เราติดต่อครับ รวมถึงเราสามารถแนะนำตัวเองให้คนติดต่อมาได้เช่นกัน ถ้าใครมีเป้าหมายจะหาแฟนต่างชาตินี่ อาจจะยิ่งเพิ่มความขยันในการฝึกได้อีกด้วยนะครับ ฮ่าๆ

ภายในเว็บไซต์ยังมีบทเรียนภาษาอังกฤษด้วยนะครับ

ฝึกภาษาอังกฤษกับ English Baby

Wednesday, July 29, 2015

คำคมความรักโดนๆ คําคมความรักภาษาอังกฤษ (Love Quote)

วันนี้เราขอเสนอ คำคมความรักโดนๆ คําคมความรักภาษาอังกฤษ ซึ่งบอกเราในหลายมุมมองว่าความรักคืออะไร

Love isn't something you find. Love is that something find you.
ความรักไม่ใช่บางสิ่งที่คุณตามหา แต่ความรักคือบางสิ่งที่ตามหาคุณ

True love is like ghosts, which everyone talks about and few have seen.
รักแท้ก็เหมือนกับผี ที่ทุกคนๆต่างพูดถึง แต่น้อยคนนักที่จะได้เจอ


Let us always meet each other with smile, for the smile is the beginning of love.
ให้เราเจอกันด้วยรอยยิ้ม เพื่อให้รอยยิ้มนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก


Love is life. And if you miss love, you miss life.
ความรักคือชีวิต ถ้าคุณทิ้งความรักไป ก็เหมือนคุณทิ้งชีวิตของคุณ


Where there is love there is life.
ที่ไหนมีรัก ที่นั่นมีชีวิต


We can't command our love, but we can our actions.

เราไม่สามารถบังคับความรักของเราได้ แต่เราสามารถแสดงมันออกมาได้

I didn't know what love meant until I met you.

ฉันไม่รู้เลยว่าความรักคืออะไร จนกระทั่งฉันได้พบคุณ

Love is when the other person's happiness is more important than your own.
ความรักคือ เราเห็นความสุขของผู้อื่น สำคัญกว่าความสุขของตัวเราเอง


I didn't plan it, but you are the best thing that's ever happened to me.

ฉันไม่ได้วางแผนเอาไว้เลย แต่เธอคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับฉัน

You can give without loving, but you can never love without giving.
คุณสามารถให้โดยปราศจากความรัก แต่คุณไม่สามารถรักโดยปราศจากการให้


The first duty of love is to listen.
หน้าที่แรงของความรัก คือการฟัง


Love me when I least deserve it because that is when I really need it.

รักฉันเมื่อฉันควรค่าที่จะรัก เพราะนั่นคือความรักที่ฉันต้องการจริงๆ

It you really need him, fate won't let you lose him.

ถ้าคุณต้องการเขามากจริงๆ โชคชะตาจะไม่ปล่อยให้คุณเสียเขาไป

There you are! I've been looking for you.

คุณนั่นเอง คนที่ฉันเฝ้าตามหา

Love is composed of a single soul inhabiting two bodies.
ความรักนั้นประกอบด้วย ร่างกายของคนสองคน ที่มีจิตใจเดียวกัน


The course of true love never did run smooth.
บทเรียนของความรักแท้ ไม่เคยจะราบเรียบให้ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย


Love has no age, no limit; and no death.
ความรักไม่มีอายุ ไม่มีข้อจำกัด และความตายก็ไม่อาจพลากไปได้


We are born of love; Love is our mother.
เราเกิดมาจากความรัก ความรักของแม่ของเรา


I believe in living today. Not in yesterday, nor in tomorrow.
ฉันเชื่อในชีวิตวันนี้ ไม่ใช่เมื่อวาน หรือวันพรุ่งนี้

Life is the flower for which love is the honey.
ถ้าชีวิตคือดอกไม้ ความรักก็คือน้ำผึ้ง


Do all things with love.

ทำทุกอย่างด้วยความรัก

You know when you're in love when you can't fall asleep because reality is finally better than your dreams

คุณรู้ไหม เมื่อไหร่ที่คุณมีความรัก เมื่อไหร่ที่คุณไม่สามารถนอนหลับ นั่นเพราะในชีวิตจริง มันดีกว่าความฝันของคุณ

If you live to be a hundred, I want to live to be a hundred minus one day so I never have to live without you.

ถ้าคุณอยู่ 100 วัน ฉันขออยู่เพียง 99 วัน จะได้ไม่มีวันไหนที่ฉันอยู่โดยไม่มีคุณ

If I know what love is, it is because of you.

ถ้าฉันรู้ว่าความรักคืออะไร นั่นเป็นเพราะคุณ

We waste time looking for the perfect lover, instead of creating the perfect love.
เราเสียเวลาไปกับการมองหาความรักที่ดี แทนที่เราจะสร้างความรักที่ดี


Love is like war: easy to begin but very hard to stop.

ความรักก็เหมือนสงคราม มันง่ายมากที่จะเริ่ม แต่ก็ยากมากที่จะหยุดมัน

Better to have lost and loved than never to have loved at all

การสูญเสียความรัก ยังที่กว่าเราไม่รักใครเลย

The love you take, is equal to the love you make.

ความรักที่คุณจะได้รับ จะเท่ากับความรักที่คุณให้ไป

Love can sometimes be magic. But magic can sometimes... just be an illusion.
ความรักบางครั้งก็เหมือนกับเวทมนต์ แต่บางครั้งความรักก็เป็นแค่ภาพหลวงตา


Love is the greatest gift that God has given us. It's free.
ความรักคือรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พระเจ้าหมอบให้เรา เพราะมันไม่มีราคา


Love, having no geography, knows no boundaries.
ความรักไม่ใช่สภาพทางภูมิศาสตร์ เราไม่รู้ขอบเขตที่ของมัน


Love is not only something you feel, it is something you do.
ความรักไม่ใช่บางสิ่งที่คุณรู้สึก แต่มันคือบางสิ่งที่คุณทำ


In the end


Don't forget to love yourself.

อย่าลืมที่จะรักตัวเอง

Tuesday, May 26, 2015

การแบ่งระดับความชอบและไม่ชอบ ในภาษาอังกฤษ

มาพูดในด้านบวก กันก่อนนะครับ

ไล่จากมากไปน้อยได้ดังนี้

I adore Tom Cruise
ฉันรัก ทอม ครูซ มาก

I really love pizza.
ฉันชอบพิซซ่ามาก

I love Britney Spears.
ฉันชอบบริตนีย์ สเปียร์


ส่วนในด้านลบหรือไม่ชอบ

ไล่จากมากไปน้อยเหมือนเดิมนะครับ

I don't care for sushi
ฉันไม่ชอบซูชิ (ไม่ชอบแบบสุดๆ ไม่กินแน่ๆ)

I really don't like beer.
ฉันไม่ชอบเบียร์เอาเสียเลย

I don't like to clean my room.
ฉันไม่ชอบทำความสะอาดห้อง (ไม่ชอบ ไม่อยากทำ แต่ก็ยังทำบ้างแหละ ไม่งั้นสกปรกแย่)

ระบบการศึกษาของอเมริกา

วันนี้เราจะมาพูดถึงระบบการศึกษาของประเทศอเมริกากันให้ฟังเล่นๆนะครับ ใครสนใจก็อ่านได้เลย

เริ่มต้นที่ชั้น Kindergarden หนึ่งปี ก่อนเริ่มเข้าเรียนในชั้นประถมศึกษา ซึ่งจะนับเป็นปีแรกของประถมศึกษา หรือ First Grade ดังนั้น ระดับประถมศึกษา ของอเมริกาจึงมีแแค่ 5 ปี จนถึง Fifth Grade รวม Kndergarden ด้วย เป็น 6 ปี

เด็กที่เรียนระบบอเมริกันจะจบการศึกษาระดับประถมศึกษาเร็วกว่าเด็กไทยราวๆ 1 ปี นั่นเอง

ระดับประถมศึกษาของอเมริกาตั้งแต่ First Grade จนถึง Fifth Grade เรียกว่า Elementary School หรือที่เรียนกันว่า Primary School หลังจากจบ Grade 5th ก็จะเข้าสู่ระดับ Junior High School เป็นเวลา 3 ปี คือ Grade 6th-8th และระดับ Senior High School อีก 4 ปี คือ Grade 9th-12th หลังจากจบ Grade 12th แล้ว ก็จะถือว่าจบการศึกษาภาคบังคับ

Sunday, April 19, 2015

How often do you exercise? คุณออกกำลังกายบ่อยแค่ไหน

ในยุคปัจจุบันนั้น คนเราขาดการออกกำลังกายกันมากขึ้น เนื่องจากทำงานหนัก หรือมัวแต่นั่งเล่นคอมพิวเตอร์ เล่นเกมนั่นเอง วันนี้เราจะมาเรียนภาษาอังกฤษกัน ว่าคุณออกกำลังกายบ่อยแค่ไหน

How often do you exercise?
คุณออกกำลังกายบ่อยแค่ไหน

Very often. I go to the gym every day. I never miss it.
บ่อยมาก ฉันไปโรงยิมทุกวัน ไม่เคยพลาดเลย

Fairly often. I play tennis twice a week with my father.
ผมออกกำลังกายค่อนข้างบ่อย ผมเล่นเทนนิสกับพ่อสัปดาห์ละสองครั้ง

I exercise pretty often. I go swimming three times a week.
ผมออกกำลังกายค่อนข้างบ่อย ผมไปว่ายน้ำ 3 ครั้งต่อสัปดาห์

Not too often. I go basketball about once a week.
ไม่บ่อย ผมไปเล่นบาสเก็ตบอล สัปดาห์ละครั้งเอง

Hardly ever. About once a month, I'll do something physical.
แทบจะไม่ เดือนละครั้งได้ ผมถึงจะออกกำลังกาย

When pigs fly. I never exercise, but I should.
ไม่เคยเลยแม้แต่น้อย ฉันไม่เคยออกกำลังกายเลย อันที่จริง ฉันควรออกกำลังกายบ้าง

Note: 
When pigs fly เป็นสำนวนนะครับ ถ้าแปลตรงๆคือ เมื่อหมูบินได้ ซึ่งปกติหมูบินไม่ได้นั่นเอง ก็เทียบกับว่ามันเป็นไปไม่ได้นั่นเอง 

Pigs can't fly. It's impossible หมูไม่สามารถบินได้ มันเป็นไปไม่ได้


Note:
I GO + sport หรือ I PLAY + sport   คือการบอกว่าผมไปเล่นกีฬานั้นๆ เช่น

I go jogging ผมไปวิ่งจ๊อกกิ้ง
I play badminton ฉันไปเล่นแบตมินตัน

อย่าลืมนะครับ ว่าการออกกำลังกายนั้นสำคัญมาก วันนี้ขอจบบทความภาษาอังกฤษไว้เพียงเท่านี้ก่อน สวัสดีครับ

Saturday, January 31, 2015

มารู้จักคำศัพท์เกี่ยวกับภาพยนตร์กันเถอะ

Get to know types of movies
มารู้จักศัพท์เกี่ยวกับแนวภาพยนตร์กันเถอะ

Action                       ภาพยนตร์แนวต่อสู้ 
Adventure                ภาพยนตร์แนวผจญภัย
Animation                ภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชัน
ฺBlack Comedy         ภาพยนตร์ตลกร้าย
Comedy                    ภาพยนตร์ตลก
Crime                       ภาพยนตร์แนวอาชญากรรม
Horror                      ภาพยนตร์แนวสยองขวัญ
Thiller                      ภาพยนตร์แนวเขย่าขวัญ
Mystery                    ภาพยนตร์แนวลึกลับ
Murder                     ภาพยนตร์แนวฆาตรกรรม
Romantic Comedy   ภาพยนตร์แนวความรักกุ๊กกิ๊ก
Romantic Drama     ภาพยนตร์แนวชีวิตรัก
Science Fiction         ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์
Tear jerker               ภาพยนตร์เรื่องเศร้า
War movie                ภาพยนตร์แนวสงคราม

Types of movie plots
แนวเนื้อเรื่องของภาพยนตร์

Boy meets girl         ความรักของหนุ่มสาว
Boy loses girl           จบแบบนางเอกไม่สมหวัง
Boy gets girl             จบแบบพระเอกนางเอกสมหวัง
Buddy film               แนวเพื่อนคู่หู
Coming of age film  แนวการเปลี่ยนแปลงจากวัยรุ่นเป็นผู้ใหญ่
Puppy love               รักวัยรุ่น
Road film                 แนวการเดินทาง
Unrequited love       รักข้างเดียว
Love triangle           รักสามเศร้า
Prison film               การใช้ชีวิตในคุกและการแหกคุก

Tools ที่ช่วยในการ แปลไทยเป็นอังกฤษ หรืออังกฤษเป็นไทย (2)

 จากรอบที่แล้วเราเคยแนะนำ Tools ชื่อดังสำหรับการแปลภาษาไปตัวนึงแล้ว อ่านได้ที่ Tools แปลภาษา

วันนี้เราก็จะมานำเสนออีกเว็ปไซต์นึงที่ translate ได้แม่นยำระดับนึง และมี 3 ทางเลือกสำหรับการแปล

นั่นคือ ilovetranslation.com นั่นเอง หลายคนอาจจะเคยใช้

ซึ่งสามารถแปลได้หลายภาษามากมาย รวมถึงแปลไทยเป็นภาษาอังกฤษ และแปลภาษาอังกฤษเป็นไทย


หน้าตาที่ใช้ก็ตามรูปนี้ ใส่ข้อความที่ต้องการจะแปล จากนั้นผลลัพธ์จะออกมา 3 ผลลัพธ์ เราก็ต้องนำมาพิจารณาความเหมาะสมของมันด้วย แน่นอนว่าไม่มี Tools ไหนที่จะแปลได้เป๊ะทุกคำอย่างสละสลวย

แต่ก็ช่วยเราได้ระดับนึง ไปลองใช้กันได้ที่  ilovetranslation.com

Sunday, January 25, 2015

Comparison การเปรียบเทียบ

Good, Better, Best  = ดี, ดีกว่า, ดีที่สุด
Bad, Worse, Worst = แย่, แย่กว่า, แย่ที่สุด

มาดูตัวอย่างประโยคกันนะครับ

The pizza is good. 
พิซซ่าอร่อยดี

But my mother makes much better pizza than this.
แต่แม่ฉันทำพิซซ่าอร่อยกว่า

My cell phone is better than yours.
มือถือของฉันดีกว่าของเธอ

But I have the worst cell phone in my family.
แต่มือถือของฉันแย่ที่สุดในบ้าน

My father is the best father in the world.
คุณพ่อของฉันเป็นคนดีที่สุดในโลก

But my mother says he's the worst husband in the world.
แต่คุณแม่บอกว่าคุณพ่อเป็นสามีที่แย่ที่สุดในโลก

That is good, that one is better, this one is the best.
อันนั้นดี อันนั้นดีกว่า อันนี้ดีที่สุด

The best movie I ever saw was Forrest Gump.
ภาพยนตร์ที่ดีที่สุดที่ฉันเคยดูมาคือเรื่อง ฟอร์เรสท์ กัมพ์

Which one do you want to hear first? Bad news or worse news?
คุณอย่างฟังเรื่องไหนก่อน ข่าวร้ายหรือข่าวร้ายกว่า

My father already has a good car, but he wants a better car.
พ่อของฉันมีรถที่ดีอยู่แล้ว แต่อยากได้รถที่ดีกว่า

How are you going mate? เป็นไงบ้างเพื่อน

How are you going mate?
= เป็นไงบ้างเพื่อน

ประโยคนี้ไม่ได้แปลว่าไปไหน ไปอย่างไรนะครับ ประโยคนี้เหมือนกับการถาม How are you, my friend?

This is a very popular sentence for English and Australian.
= เป็นประโยคที่คนอังกฤษ และออสเตรเลียใช้บ่อย

เรายังมีประโยคในการทักทาย ว่าเป็นยังไงบ้างอีกหลายประโยคให้เลือกใช้กัน

ไปดูตัวอย่างกันเลย

How are you?            สบายดีไหม
How's it going?         เป็นอย่างไรบ้าง (ไม่เป็นทางการ)
How are you doing? เป็นอย่างไรบ้าง (ไม่เป็นทางการ)
How's life?                ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง (ไม่เป็นทางการ)
How are things?       ทุกอย่างเป็นอย่างไรบ้าง  (ไม่เป็นทางการ) 

Saturday, January 24, 2015

คำถามเกี่ยบกับงานอดิเรก (Hobby)

วันนี้เราจะมาเรียนรู้คำถามเกี่ยวกับการงานอดิเรกเป็นภาษาอังกฤษกันนะครับ

Hobby = งานอดิเรก

Do you have a hobby?
คุณมีงานอดิเรกมั้ย

Yes, I play the piano. I have played for about 6 years.
มี ฉันเล่นเปียโนมา 6 ปีแล้ว

Yes, I collect movie postcards. I have about 100.
มี ฉันสะสมใบปลิวโฆษณาหนัง ฉันมี 100 ใบเชียวนะ

I have no hobby. All I do is study and sleep.
ฉันไม่มีงานอดิเรก ถ้าไม่อ่านหนังสือก็นอน

Not really. I like listening to music, but that is not a hobby.
ไม่เชิง ฉันชอบฟังเพลง แต่ไม่ใช่งานอดิเรก


When did you start? คุณเริ่มทำงานอดิเรกเมื่อไหร่

I started about five years ago.
ผมทำมาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว

I started in high school.
ผมเริ่มทำตอนอยู่มัธยมปลายครับ

How many years have you had this hobby?
คุณทำงานอดิเรกนี้มานานกี่ปีแล้ว

I've had it for five years
ผมทำมา 5 ปีแล้วครับ

Is your hobby expensive? งานอดิเรกคุณใช้เงินมากไหม

Yes, I spend a lot of money on photography supplies.
มากค่ะ ฉันต้องจ่ายเงินมากสำหรับอุปกรณ์ถ่ายภาพ

A little. The health club costs 500 baht a month.
นิดหน่อยครับ ฉันจ่ายค่าสมาชิกชมรมสุขภาพเดือนละ 500 บาท

No. Badminton is pretty inexpensive to play.
ไม่เลยครับ สำหรับผม แบดมินตันแทบจะไม่ได้ใช้เงินเลย